คลินิกวิชาการสารสัมพันธ์
กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1
ปีที่ 2 ฉบับที่ 22 วันที่ 20 มิ.ย. 2567
วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 นายสาคร คำแสน รองผอ.สพป.จันทบุรี เขต 1 นางธิติกาญจน์ พัฒน์อมรไชย นางสาวพรรณี หรี่จินดา นางสาววรากร อัครจรัสโรจน์ ศึกษานิเทศก์ นางสุภาวดี อ่องโอภาส ผอ.กลุ่มกฎหมายฯ นายนิพิท มหาชัย นักวิชาการศึกษา และนางนันทวัน พีระเชื้อ นักวิเคราะห์นโยบายฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อนิเทศ กำกับ ติดตาม การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เครือข่ายสถานศึกษาที่ 7 คุ้งวิมาน ณ รร.วัดหนองแหวน รร.วัดนาซา และรร.วัดท่าแคลง อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 – วันที่ 1 มิถุนายน 2567 นายพรณรงค์ ทรัพย์คง ศึกษานิเทศก์ สพป.จันทบุรี เขต 1 เป็นวิทยากรโครงการค่ายเยาวชนพัฒนาศักยภาพทางดนตรี ประจำปีงบประมาณ 2567 ณ หาดทรายทองรีสอร์ท อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 นายสาคร คำแสน รองผอ.สพป.จันทบุรี เขต 1 นางธิติกาญจน์ พัฒน์อมรไชย นางสาวพรรณี หรี่จินดา นางสาววรากร อัครจรัสโรจน์ ศึกษานิเทศก์ นางสาวสมพร อุระเกตุ ผอ.กลุ่มส่งเสริมฯ นายภาณุวัฒน์ คงอยู่ นักทรัพยากรบุคคล ได้ลงพื้นที่เพื่อนิเทศ กำกับ ติดตาม การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เครือข่ายสถานศึกษาที่ 8 นายายอามก้าวหน้า ณ รร.วัดวังหิน รร.บ้านห้วงกระแจะ และรร.บ้านยางระหง อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
วันที่ 4 มิถุนายน 2567 นางธิติกาญจน์ พัฒน์อมรไชย นางสาวพรรณี หรี่จินดา นางสาววรากร อัครจรัสโรจน์ ศึกษานิเทศก์ นางสาวสมพร อุระเกตุ ผอ.กลุ่มส่งเสริมฯ นายภาณุวัฒน์ คงอยู่ นักทรัพยากรบุคคล ได้ลงพื้นที่เพื่อนิเทศ กำกับ ติดตาม การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เครือข่ายสถานศึกษาที่ 8 นายายอามก้าวหน้า ณ รร.บ้านต้นกระบก รร.วัดนายายอาม และรร.วัดโพธิ์ลังกามิตรภาพที่ 171 อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี
ตกขบวน...ไหมนะ?
กลุ่มงานนิเทศ ติดตาม และประเมินผลระบบบริหารและการจัดการศึกษา
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ เราได้รับทั้งข่าวดีและข่าวที่น่าตกใจเรื่องของการลงทุนด้านดิจิตัลจากเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่กำลังขยายการลงทุนและพัฒนาเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง เช่น นายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ เดินทางไป 3 ประเทศ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย เพื่อประกาศเม็ดเงินลงทุนตั้งศูนย์ข้อมูลเอไอและบริการคลาวด์ โดยที่ไมโครซอฟต์ประกาศลงทุนในอินโดนีเซียวงเงิน 1,700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 63,000 ล้านบาท และประกาศการลงทุนเอไอและคลาวด์คอมพิวติงในมาเลเซียมูลค่าการลงทุนถึง 2,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 81,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเอไอในมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในแต่ละประเทศที่ต้องการยกระดับดึงการลงทุนกลุ่มไฮเทคอื่นๆเพิ่มมากขึ้นในอนาคต แต่เมื่อเดินทางเยือนไทย ไมโครซอฟต์ได้แค่ประกาศลงทุนตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ โดยยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการลงทุนเมื่อเทียบกับมาเลเซียและอินโดนีเซีย ทำไมล่ะ?
คุณครูรู้หรือไม่? ในความเป็นจริงแล้ว บริษัทเหล่านี้ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่จะมีการเข้ามาศึกษาและวิจัยเก็บข้อมูลความเป็นไปได้ในการลงทุนในแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่องล่วงหน้าแล้วหลายปี ขอย้ำว่า "หลายปี” ก่อนตัดสินใจลงทุนมูลค่าสูง เมื่อมีการลงทุนเข้ามา การขยายตัวของบริการคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ก็เกิดขึ้น ตามมาด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รองรับการลงทุนประเภทอื่น ๆ ให้หลั่งไหลเข้ามาพร้อมกับตำแหน่งงานและรายได้มหาศาล นอกจากความสามารถในการเจรจาของรัฐบาลแล้วปัจจัยด้านอื่น ๆ เช่น นโยบายการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาแหล่งพลังงานสีเขียว ตามเป้าหมายประชาคมโลก ทิศทางการพัฒนาประเทศ นโยบายการศึกษาในปัจจุบันและแนวโน้มลักษณะประชากรในอนาคต ความสามารถทางเทคโนโลยีของแรงงาน ทักษะการทำงาน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุน ถึงแม้ว่าคนไทยจะติดอันดับประเทศที่ใช้ระบบดิจิทัลทางการค้าระหว่างประเทศอันดับ 32 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของอาเซียน จากผลสำรวจของ Global Trade Modernization Index 2024 (ข้อมูล:ข่าวคณะโฆษก,รัฐบาลไทย 12/6/267) แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นฐานการลงทุนที่น่าสนใจในสายตาของบริษัทลงทุนด้านดิจิตัล ที่มีความต้องการแรงงานคนที่มีมากกว่าทักษะการใช้งาน ข่าวการลงทุนของไมโครซอฟท์ที่ผ่านมา อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าไทยเริ่มเดินช้ากว่าประเทศอื่นแล้ว
ถึงเวลาแล้วที่ "คุณครู” ผู้รับหน้าที่ "โค้ช” ในวงการการศึกษาตัวจักรสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยไม่ตกขบวน มีส่วนร่วมรับผิดชอบกับอนาคตของประเทศชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงเวลาแล้วที่คุณครูต้องตื่นตัว รู้เท่าทันยุคสมัย การปรับตัวและใส่ใจพัฒนาการสอน วางแผนแก้ไขปัญหาและหาทางพัฒนาเด็กอย่างมีจุดหมาย สร้างเสริมทักษะที่ใช้ได้จริงในโลกอนาคต ติดอาวุธให้เด็กนักเรียนไทยมีโอกาสแข่งขันกับเขาได้ อย่าปล่อยให้เด็กไทยมาเรียนให้ครบ 200 วัน และจบปีการศึกษาด้วยเกรดที่สวยงาม แต่กลายเป็นแรงงานไร้คุณภาพและไม่เป็นที่ต้องการของโลกในอนาคต
-------------------------------------------------------------------------
ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลการตอบคำถามของสัปดาห์ที่ผ่านมา