สพป.จันทบุรี เขต 1

สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป




ปริศนาธรรม "สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"

๑. สี่คนหาม คือ ร่างกายของคนประกอบด้วย ธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อคนตายหรือร่างกายแตกดับ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ แตกดับ อันดับแรก ลมจะดับก่อน เมื่อลมดับ ไฟก็จะดับตามมา ดังจะเห็นว่า เมื่อสิ้นลมหายใจ แล้วกายจะเย็น ต่อมาดินและน้ำ ก็จะดับตาม เกิดการเน่าเหม็น พุพอง สลายลง

๒. สามคนแห่ คือ อนิจจัง ความไม่เที่ยง ทักขัง ความเป็นทุกข์ อนัตตา ความไม่มีตัวตน เมื่อเกิดมาแล้วจะมี ๓ สิ่งนี้มาด้วยทุกคน คือ มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย หมุนเวียนเป็นสังสารวัฎ เรียกว่าอนิจจังไม่เที่ยง ทุกขัง ความเป็นทุกข์ของสิ่งทั้งปวง คือ ความทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ทุกสรรพสิ่งในโลกล้วน มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ และดับไป เรียกว่า อนัตตา

๓. หนึ่งคนนั่งแคร่ คือ จิตของเรานั่นเอง เมื่อเรามีชีวิตอยู่ จิตตัวนี้จะอยู่กับเรา ซึมซับเอาบุญ เมื่อเราทำความดีหรือบุญกุศล ซึมซับเอาบาป เมื่อเราทำบาปหรืออกุศล แต่เมื่อเราตายไป จิตนี้แหละ จะเป็นผู้ไปยังปรโลก พูดง่าย ๆ ว่าถึงร่างเราตาย จิตไม่ตาย จิตเป็นตัวเดินทาง เช่น ไปที่ดี เรียกว่า สุขคติ ถ้ามีบุญ เช่น เกิดเป็นมนุษย์ในโลก เกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ เกิดเป็นพรหมในพรหมโลก ไปที่ไม่ดี เรียกว่า ทุกขคติ เช่น เกิดเป็นสัตว์นรกในนรก เกิดเปรตในโลก เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานในโลก เป็นต้น

๔. สองคนพาไป คือ บุญและบาป สองสิ่งนี้จะติดกับดวงจิตไปยามตาย คนทั่วไป เรียกว่าวิญญาณ อันที่จริงแล้ว คือ จิต นั่นเอง ที่ไม่ตายไปพร้อมกับร่างกาย แต่ดวงจิตจะล่องลอยออกไปตามแรงของบุญหรือบาป ถ้าแรงบุญมากก็ไปที่สูง เรียกว่า สุขคติ (คติ แปลว่า ที่ไป)

กล่องแสดงความคิดเห็น